หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2554

พาลูกเที่ยว

          เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ลูกสาวคนเล็กของผมชวนครอบครัวของเราให้ไปเที่ยวกันที่ดรีมเวิลด์ จังหวัดปทุมธานี ความจริงแล้วเค้าบอกผมมาหลายสัปดาห์แล้ว ความที่ไม่ค่อยว่าง เนื่องจากเดือนมีนาคม เป็นเดือนที่จะต้องสะสางงานให้หมด จนทบความรบเร้าของลูกไม่ไหวเพราะลูกบอกว่าเค้าไปเที่ยวกันเป็นครอบครัวรวมทั้งครอบครัวของเพื่อนๆด้วย ก็เลยไปครับ
          ผมเคยไปสถานที่แห่งนี้เมื่อประมาณ พ.ศ.2545 คงจะได้ จำได้ว่าครั้งนั้นพานักเรียนไปเที่ยวแล้วก็ไม่ได้ไปนานแล้ว ไปเห็นอีกครั้ง ก็ตามประสาคนแก่แหละครับ เห็นเครื่องเล่นของเด็กสมัยนี้แล้ว ยอมรับเลยครับว่าน่ากลัว สมัยก่อนเรา นั่งชิงช้าสวรรค์ หรือ ฝึกกระโดดหอว่าน่ากลัวแล้วนะครับ พอเจอเครื่องเล่นเดี๋ยวนี้ ผมว่าน่ากลัวกว่าหลายเท่า และคนที่กลัวความสูงแบบผม คงไม่มีโอกาสได้เล่นแน่นอน ผมจึงไม่แปลกใจครับที่เห็นเด็กสมัยนี้มีความกล้าอย่างมาก ในการที่จะทำอะไร ก็ขนาดเครื่องเล่นน่ากลัวแบบนั้นเขายังไม่กลัวกันเลย พูดถึงความกล้าของเด็กสมัยนี้แล้ว มองไปอีกทีก็นับเป็นเรื่องที่ดีครับ ถ้าได้รับการดูแลเอาใจใส่จากผู้ปกครองและครูบาอาจารย์แต่ถ้าความกล้าเหล่านี้ขาดเราะป้องกันที่ดี ขาดคนประคับประคองให้เป็นไปในทางที่ถูกละก็ ผมว่าน่ากลัวนะครับ ...หรือท่านว่าไง












วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2554

เด็กหญิงสตางค์



          เมื่อคืนวันที่ 7 มีนาคม 2554 ผมนั่งดูรายการจันทร์พันดาว โจ๊ะพรึม พรึม ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง  7 ถ้าจำไม่ผิดน่าจะช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ประมาณนี้แหละครับ จริงๆแล้วผมไม่ค่อยได้ดูรายการนี้เท่าไหร่นัก เนื่องจากก่อนที่รายการนี้จะปรับเปลี่ยนรูปแบบ ก็เป็นรายการประเภทวาไรตี้ ที่พบเห็นอยู่ทั่วๆไปนี้แหละครับ เมื่อสัปดาห์ก่อนนี้ ผมได้บังเอิญดูรายการนี้ (เนื่องจากไม่รู้จะดูรายการอะไร) ความที่ผมเป็นคนที่ชอบดูรายการโทรทัศน์มาก ทุกคืนผมจะเปิดโทรทัศน์ ดูและตั้งเวลาปิดไว้ ผมจะหลับก่อนที่จะถึงเวลาที่ตั้งไว้เสมอ


           ผมได้เห็นน้องสตางค์ มาประกวดร้องเพลงเป็นครั้งแรก เพื่อหาเงินรักษาคุณพ่อที่ป่วยเป็นโรคไต เสียงร้องของน้องก็ฟังดูดีนะครับ แต่ที่ดูดีกว่า คือความตั้งใจของลูกอายุไม่ถึง 10 ขวบ ที่ต้องการหาเงินเพื่อรักษาคุณพ่อ ทุกครั้งที่ดูน้องสตางค์ร้องเพลง ผมมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ผมจะชวนภรรยาและลูกๆที่บ้าน บ้านเรารวมกันมีโทรศัพท์ 4 หมายเลข เราโหวดให้น้องสตางค์ทุกครั้ง เสียงร้องของน้องสตางค์ในความรู้สึกของผมมันสะอาดหมดจดด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ของน้องสตางค์ บ้านเรามีความสุขที่ได้มีส่วนช่วยให้น้องสตางค์ผ่านเข้ารอบไปในแต่ละครั้งแม้เป็นเพียงการช่วยเหลือเพียงเล็กน้อย คุ่แข่งของน้องสตางค์ก็ดีนะครับ และมีความจำเป็นที่แตกต่างกัน ที่ต่างกันก็เพียงนิดเดียวเท่านั้นแหละครับ คือน้องเค้าร้องเพลงเพื่อยืดชีวิตของคุณพ่อให้อยู่เป็นขวัญและกำลังใจให้ครอบครัวของเข้าให้นานที่สุดที่ที่จะมีแรงและกำลังจะทำได้ ครั้งหน้าช่วยกันเชียร์น้องเค้าอีกนะครับ

วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ขอเป็นเจ้าภาพชลบุรีเกมด้วยคน

       
           เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2553 โรงเรียนบ้านทุ่งกราดได้นำนักเรียนและคณะครูเข้าชมการแข่งขันมวยปล้ำ ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 39  "ชลบุรีเกมส์" ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา โดยการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี และเทศบาลนครแหลมฉบัง คณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งกราด ประมาณ 200 คน ได้เข้าชมกีฬามวยปล้ำ ซึ่งเป็นกีฬาที่นักเรียนและครูไม่ค่อยได้คุ้นเคยในการแข่งขันและกติกา แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้ชมสักระยะหนึ่งก็ค่อยๆเข้าใจวิธีการและกติกาการแข่งขัน เพราะกีฬาชนิดใดก็ตามที่เป็นที่ยอมรับและบรรจุเข้าแข่งขัน ในระดับนานาชาติ ก็ถือว่าเป็นกีฬาที่สามารถและเรียนรู้ได้โดยไม่ยาก

           การไปชมการแข่งขันกีฬามวยปล้ำในครั้งนี้ ผมคิดว่านักเรียนและครูทุกคนได้พบความจริงอย่างหนึ่งว่า การที่เราได้มีโอกาสชมการแข่งขันกีฬาที่สนามจริงๆ บรรยากาศและความรู้สึกมันต่างกันลิบลับกับการที่นั่งชมและเชียร์ที่หน้าจอโทรทัศน์ เห็นได้จากเมื่องถึงเวลากลับ มีครูและนักเรียนบางกลุ่มยังอยากจะชมการแข่งขันต่อซึ่งก็ต้องมาดูรอบชิงชนะเลิศในตอนเย็น

          กิจกรรมในครั้งนี้ก็ต้องขอขอบพระคุณองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ที่สนับสนุนอาหารกลางวันและน้ำดื่ม และเทศบาลนครแหลมฉบังที่ให้การสนับสนุนรถรับส่งครูและนักเรียน และขอบพระคุณคณะครูจากโรงเรียนกีฬาที่กรุณาแนะแนวศึกษาต่อให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทำให้นักเรียนเห็นทางเลือกในการศึกษาต่อ

                                                                                                                                                                  

วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สิทธิเรื่องย้ายที่ครูอาจไม่รู้

          เกี่ยวกับเรื่องย้ายข้าราชการครูสายผู้สอน เพื่อนครูคงทราบดีว่า ในหนึ่งปี เราสามารถยื่นคำร้องขอย้ายได้สองครั้ง ดังนี้ คื
          ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1-15  กุมภาพันธ์
          ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 1-15  สิงหาคม
         ส่วนหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการ ก็เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. และหลักเณฑ์การย้ายครูและบุคลากรทางการศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชลบุรี เขต 3 พ.ศ.2552 กำหนดซึ่งคาดว่า เพื่อนข้าราชการครูคงหาข้อมูลได้ไม่ยาก แต่ที่ผมจะนำมาเปิดประเด็นในวันนี้ คือเพื่อนข้าราชการครูที่ยื่นคำร้องขอย้ายเมื่อวันที่ 1-15 สิงหาคม 2553 ท่านสามารถแก้ไขคำร้องในส่วนที่เป็นโรงเรียนที่จะย้ายไปได้โดยให้ทำเรื่องผ่านผู้บริหารสถานศึกษา (ตามหนังสือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชลบุรี เขต 3 ที่ ศธ 04036/5004 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2553)
          สาเหตุที่ให้ดำเนินการแบบนี้ก็เนื่องจาก ณ วันที่ยื่นคำร้องขอย้าย ครูผุ้สอนไม่รู้ว่าจะมีโรงเรียนใดมีตำแหน่งว่างบ้าง ทั้งนี้เนื่องจาก ช่วงที่ต้องยื่นคำร้องขอย้าย ยังไม่มีตำแหน่งว่าง หลังจากยื่นคำร้องขอย้ายแล้ว จึงจะมีตำแหน่งว่าง (หลังจากเกษียณ/เออรี่) สพฐ.จึงจะจัดอัตรากำลังมาให้เขต อ.ก.ค.ศ.ชลบุรีเขต 3 จึงมีมติให้เขตแจ้งโรงเรียนที่มีอัตราว่าง และเพื่อความเป้นธรรมในเรื่องข้อมูลข่าวสาร จึงให้ผู้ที่เขียนย้ายขอแก้คำร้องขอย้ายได้หลังจากทราบว่า โรงเรียนใดมีอัตราว่างบ้าง
          ผมนำมาเล่า เพราะเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนครู ในการยื่นคำร้องขอย้าย จะได้ไม่ต้องเหมือนกับการซื้อหวยอีกต่อไปว่าจะเดาถูกหรือผิด

                                 

การจัดลำดับอาวุโสในราชการ

          เรามักจะได้ยินคำว่าอาวุโสทางราชการการเข้ามามีบทบาทให้การดำเนินการเรื่องเกี่ยวกับบุคคลกันบ่อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลื่อนตำแหน่ง เรื่องของการย้าย หรืออื่นๆ ที่มีความจำเป็นที่จะต้องเปรียบเทียบกันระหว่างบุคคล หลายๆหน่วยงานได้เอาหลักอาวุโสมากำหนดเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ทั้งนี้จัดลำดับอาวุโสทางราชการเป็นข้อพิจารณาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และเป็นหลักที่ถือปฎิบัติกันมาจนเป็นที่ยอมรับ วันนี้ถ้าจะถามกันว่า แล้วที่จะเรียกว่าการพิจารณาอะไรก็ตามที่ต้องใช้หลักอาวุโสเราจะพิจารณากันอย่างไร ดูจากอะไร เอาคน 10 คนมาให้ความเห็นเรื่องนี้ ก็คงมีความหลากหลายแตกต่างกัน งั้นถ้าจะต้องสรุปเพื่อนำไปใช้เราจะยุติกันได้อย่างไร
          การจัดลำดับอาวุโสในราชการนั้น สำนักงาน ก.พ. เคยทำหนังสือเพื่อชี้แจงสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2529 ที่ นร0605/1184 ดังนี้ "สำหรับข้าราชการพลเรือนสามัญนั้นมิได้มีระเบียบแบบแผนในการจัดลำดับอาวุโสชัดเจน แต่สำนักงาน ก.พ. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าน่าจะจัดลำดับอาวุโสในราชการของข้าราชการดังกล่าวได้ตามลำดับ ดังนี้
          1. ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดดำรงตำแหน่งในระดับที่สูงกว่า ถือว่าผู้นั้นอาวุโสกว่า
          2. ถ้าเป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งในระดับเดียวกัน ผู้ใดได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในระดับนั้นก่อน ถือว่าผู้นั้นอาวุโสกว่า
          3. ถ้าเป็นผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับเดียวกันพร้อมกัน ผู้ใดได้รับเงินเดือนมากกว่าถือว่าผู้นั้นอาวุโสกว่า
          4. ถ้าเป็นผู้ได้รับเงินเดือนเท่ากัน ผู้ใดมีอายุราชการมากกว่าถือว่าผู้นั้นอาวุโสกว่า
          5. ถ้าเป็นผู้มีอายุราชการเท่ากัน ผู้ใดได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในชั้นสูงกว่าถือว่าผู้นั้นอาวุโสกว่า
          6. ถ้าเป็นผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในชั้นเดียวกัน ผู้ใดได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นนั้นก่อนให้ถือว่าผู้นั้นอาวุโสกว่า
          7. ถ้าเป็นผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในชั้นเดียวกันพร้อมกัน ผู้ใดมีอายุแก่กว่าให้ถือว่าผู้นั้นอาวุโสกว่า"
          ผมว่า สพป.ชบ.3 ของเรามีหลักเกณฑ์หลายเรื่องที่ใช้หลักอาวุโส แต่เราเคยลองพิจารณาหลักเกณฑ์ที่กำหนดอย่างถ่องแท้ โดยไม่ใช้อคติใดๆเข้ามาข้องเกี่ยว แล้วลองหาคำตอบให้กับตัวเองซีครับว่า หลักที่กำลังใช้อยู่ในทุกวันนี้ ที่มีผลกระทบกับพวกเราไม่ว่าจะเป็นครู ผู้บริหาร หรือบุคลากรอื่น เป็นหลักที่ถูกหลักหรือไม่ ถ้ายังไม่ถูกเราควรทำอย่างไร

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

จดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 2

                                                                      13  ธันวาคม 2553

เรียน  ผู้บริหาร สพป.ชบ.3 ที่นับถือทุกท่าน

            จดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ เป็นฉบับที่ 2 หลังจากฉบับที่ 1 ออกไปเมื่อวันที่  2 พฤศจิกายน 2553 ก็ถือเป็นช่วงระหว่างพวกเราหยุดเรียน เพื่อให้ความร่วมมือกับจังหวัดชลบุรี ในโอกาสที่เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 39 ชลบุรีเกมส์ แต่เท่าที่ทราบหลายๆ โรงเรียนก็ต้องนำนักเรียนไปเป็นกองเชียร์ชมการแข่งขันกีฬา

            เพื่อผู้บริหารครับ วันนี้ มีการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาอัตราข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ได้รับจัดสรรคืนจากการเข้าร่วมมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด) ปีงบประมาณ 2553 ผมเป็นกรรมการคนหนึ่ง ในการพิจารณาในครั้งนี้ เห็นว่าเป็นเรื่องที่พวกเราควรรู้ เลยนำมาเล่าสู่กันฟัง เรื่องของเรื่องเป็น ดังนี้ครับ

            สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แจ้งว่า ตามที่ได้พิจารณาจัดสรรอัตราข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่เข้าร่วมมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ คืนให้เท่ากับจำนวนที่เข้าร่วมมาตรการแล้ว ปรากฏว่า มีบางเขตพื้นที่การศึกษา ที่หลังจากจัดสรรอัตราว่างข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาแล้ว จนมีครูครบตามเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กำหนดทุกโรงเรียนแล้ว  ตำแหน่งว่างที่เหลือ ก็ส่งคืนให้ สพฐ. เพื่อเกลี่ยให้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่มีความขาดครู การนี้ สพป.ชบ.3 ได้รับการจัดสรร 8 อัตรา สรุปให้เข้าใจง่ายๆ ก็หมายความว่า สพป.ชบ.3 ได้รับการจัดสรรอัตรากำลัง เนื่องจากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เข้าร่วมมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด) ปีงบประมาณ 2553  2 ครั้ง

            เงื่อนไขในการจัดสรร สพฐ.กำหนดให้จัดสรรกับสถานศึกษาที่มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ 1,000 คน ขึ้นไป และ มีความขาดครูตั้งแต่ร้อยละ 30 ขึ้นไปเป็นอันดับแรกก่อน คณะกรรมการก็พิจารณาตามเกณฑ์ครับ หลังจากตรวจสอบข้อมูลแล้ว ปรากฏว่า โรงเรียนที่มีนักเรียนเกิน 1,000 คน ขึ้นไปใน สพป.ชบ.3 มีทั้งสิ้น 4 โรงเรียนครับ และทั้ง 4 โรงเรียน ไม่มีโรงเรียนใดขาดเกณฑ์เกิน ร้อยละ 30 คณะกรรมการจึงมีมติให้จัดสรรโดยพิจารณาจากโรงเรียนที่ขาดเกณฑ์สูง โดยจัดสรรให้กับ 8 โรงเรียน โรงเรียนละ 1 คน ผมคาดว่า หลังจากวันที่ 14 ธันวาคม 2553 สพป.ชบ.3 คงแจ้งให้ทราบพร้อมข้อมูลอัตรากำลังของทุกโรงเรียน

            เพื่อนผู้บริหารครับ  เพื่อเป็นการทบทวนความจำ หลังจากวันที่ 1 ตุลาคม 2553 เป็นต้นมา สพป.ชบ.3 ได้จัดสรรอัตรากำลังให้กับโรงเรียนในสังกัด 2 ครั้งแล้วนะครับ

            ครั้งที่ 1 จัดสรรครูอัตราจ้างจาก สพฐ. 24 อัตรา ขณะนี้หลายๆโรงเรียนที่ได้รับจัดสรรกำลังเปิดรับโดยจ้างได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2554 เป็นต้นไป

            ครั้งที่ 2 จัดสรรอัตราข้าราชการครู 8 อัตรา ครั้งนี้  ส่วนจะได้เมื่อไหร่นั้น ก็ติดตามดูนะครับ

            มีเพื่อผู้บริหารหลายคนสอบถามผมว่า ครูที่ได้รับจัดสรรแล้ว สพป.ชบ.3 ใช้บัญชีจากเขตอื่นนั้น พวกเราสงสัยกันว่า เมื่อไหร่จะได้ซะที วันนี้ (13 ธันวาคม 2553) ผมได้สอบถามเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบแล้ว ได้รับการชี้แจงว่า อีกไม่นาน เพราะตอนนี้ เขตกำลังทำหนังสือเรียกตัว คาดว่า(ข้อคิดเห็นของผมนะครับ) เดือนธันวาคมนี้น่าจะเรียบร้อย รู้สึกมีทั้งสิ้น 19 อัตรา โรงเรียนผมระบุเอกสังคมศึกษาก็อยู่ในชุดนี้แหละครับ

            เพื่อนผู้บริหารครับ โอกาสต่อไปผมจะส่งจดหมายเปิดผนึกของผมให้ท่าน ทางบล็อกของผมนะครับ เห็นท่าน ผอ.เขตทำ รู้สึกน่าสนใจ และรู้สึกเป็นส่วนตัว ไม่ต้องใช้ช่องทางราชการติดต่อกับพวกเรา ช่องทางติดต่อก็ใช้ช่องทางนี้นะครับ http://watcharin-sp.blogspot.com/    ลองเข้าไปดูได้ครับ นึกอะไรได้ก็บันทึกไป เข้าไปแสดงความคิดเห็น ให้ข้อเสนอแนะได้ครับ ได้ครับ พบกันใหม่ฉบับหน้าที่บล็อก http://watcharin-sp.blogspot.com/


                                                                                

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

งานชลบุรีแฟร์


          ได้มีโอกาสไปเที่ยวชมงานชลบุรีแฟร์ครั้งที่ 2 จัดที่หน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี เคยไปเที่ยวชมกันบ้างหรือยังครับ น่าสนใจมากทีเดียว เมื่อปีที่แล้วผมก็ได้ไปเที่ยวชม ติดใจปีนี้เลยไปอีก ไม่ผิดหวังครับ เพราะงานนี้ เค้าเอาสินค้า O-TOP มาจากทั่วภูมิภาค ทั้งของกินของใช้ หลากหลายละลานตาไปหมด ผมคิดว่างานแบบนี้จัดที่ชลบุรีนับว่าถูกนะ เพราะเอกลัษณ์อย่างหนึ่งของคนชลบุรี คือ ขี้กิน ขี้เที่ยว และเป้นนักช็อบตัวยง ท่านเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม ผมว่านะ ชลบุรี มีร้านอาหารที่อร่อยๆมาก คนชลบุรีไปเที่ยวที่ไหนนี่ รถไม่พอใส่ของ เพราะซื้อกันมาก จัดได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีกำลังซื้อมาก

          ผมได้ชิมอาหารจากหลายร้าน อร่อยขั้นเทพเลยครับ เช่น ลาบเป็ดอุดร ขนมจีนบ้านบึง ไก่ย่างเขาสวนกวาง ส้มตำรสชาดแซ่บๆ อาหารทะเลก็ไม่น้อยหน้าครับ ปูม้าตัวโตๆนึ่งกับน้ำจิ้มรสซีฟู้ด ต้มยำทำแกงครบถ้วน เรียกได้ว่า เป็นงานเดียวที่เราหาของกินได้ครบทุกภาค ของหวานจากแปดริ้ว และอีกสารพัด  ส่วนของใช้ก็มีหลากหลายครับ เช่นเสื้อผ้าสวยๆ ฝีมือคนไทย  ผ้าฝ้ายผ้าไหมจากจังหวัดต่างๆ พลอย เครื่องประดับ เรียกว่าเดินชมและช็อบกันเพลิน มารู้สึกตัวอีทีก็ปวดขาแล้ว


          งานนี้เค้ามีตั้งแต่วันที่ 10-14 ธันวาคม 2553 นี้ ใครที่ผ่านไปผ่ามาก็ลองแวะดูนะครับ ดีแทบทุกอย่าง เสียอย่างเดียวครับ หาที่จอดรถยากไปหน่อย เราเป็นแฟนประจำของงานนี้ จัดทุกครั้งก็อยากไปทุกครั้ง แต่พอเข้าใกล้บริเวณงานกลับหาที่จอดรถไม่ได้ เจ้าหน้าที่กันที่จอดรถไว้สำหรับ VIP ผมว่า ที่จอดรถ VIP มีทั้ง 2 ด้านข้างบริเวณงานเลย คนที่ไปเที่ยวงานเลยจอดรถไม่สะดวก น่าจะให้ VIP เข้าไปจอดรถในส่วราชการที่อยู่ใกล้ๆ คนที่มาเที่ยวงานเค้าซื้อของจะได้จอดรถใกล้ที่ขาย ขนของง่าย ก็ฝากให้ผู้จัดนำไปพิจารณานะครับ ส่วนอื่นดีอยู่แล้วครับ